สั่งชานมไข่มุกอย่างไร...เมื่อเป็นเบาหวาน
ทั้งผู้เป็นเบาหวานและผู้ที่ต้องการมีสุขภาพดี สามารถเลือกกินชานมไข่มุกได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณหรือแลกเปลี่ยนสัดส่วนคาร์โบไฮเดรตกับอาหารประเภทข้าวแป้งชนิดอื่นๆ ซึ่งเราสามารถเลือกกิน ชานมไข่มุก ได้ดังนี้
1. ไม่ใส่น้ำเชื่อม หรือสั่งหวานน้อย ร้านชานมไข่มุกส่วนมากสามารถปรับลดความหวานได้ เช่น หวาน 0% 25% 50% ซึ่งในเม็ดไข่มุก มีเคลือบน้ำเชื่อมอยู่แล้ว ดังนั้นการสั่งแบบหวาน 0% ก็มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมอยู่แล้ว
2. แลกเปลี่ยนสัดส่วนของชานมไข่มุกกับอาหารมื้อปกติ หากมื้อนี้ต้องการจะกินชานมไข่มุก ให้ตัดข้าวแป้งจากอาหารมื้อหลักออก เช่น เดิม กินก๋วยเตี๋ยว เปลี่ยนมากิน เกาเหลา กับชานมไข่มุกไม่หวาน 1 แก้ว
3. เลือกสั่ง topping อื่นๆ ทดแทนไข่มุก เช่น บุก เจลลี่ เฉาก๊วย พุดดิ้ง ซึ่งจะมีพลังงานและคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่าเม็ดไข่มุก
สั่ง 1 แก้ว หารครึ่งกับเพื่อน เพื่อไม่ให้ได้รับพลังงานและคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป การแบ่งกับเพื่อนหรือคนที่อยากกินด้วยคนละครึ่งก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
4. เพิ่มการออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและคาร์โบไฮเดรตส่วนเกินที่อาจเกิดขึ้นได้ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไปด้วย
*ผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 หรือผู้ที่ได้รับอินซูลิน หากไม่แน่ใจเรื่องปริมาณคาร์โบไฮเดรตในชานมไข่มุก ควรปรึกษานักกำหนดอาหาร
จะเห็นได้ว่า มีทางเลือกมากมายสำหรับผู้เป็นเบาหวานและผู้มีสุขภาพดีที่ชื่นชอบชานมไข่มุก แต่ไม่ต้องการให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือได้รับพลังงานส่วนเกิน ลองนำคำแนะนำแต่ละข้อไปปรับใช้ ดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เกิน 1-2 แก้วต่อสัปดาห์ และหากผู้เป็นเบาหวานท่านใดยังมีความกังวลว่าการดื่มชานมไข่มุกจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็สามารถเจาะน้ำตาลปลายนิ้วหลังจากดื่มชานมไข่มุกไปแล้ว 2 ชั่วโมงได้ค่ะ หากระดับน้ำตาลอยู่ในช่วงน้อยกว่า 180 mg/dl ก็แสดงว่ามีการแลกเปลี่ยนปริมาณคาร์โบไฮเดรตได้เหมาะสม
โดย ชฎาพร หนองขุ่นสาร
นักกำหนดอาหารวิชาชีพ (CDT, CDE)
ศูนย์โภชนาการและการกำหนดอาหาร รพ.วิมุต-เทพธารินทร์